วันอังคารที่ 3 กรกฎาคม พ.ศ. 2555


นักสัตวศาสตร์ได้จัดม้าไว้ในประเภทสัตว์กินพืชเป็นอาหารและมีนิ้วเท้าเป็นจำนวนคี่ หรือเรียกตามศัพท์วิทยาศาสตร์ว่า พาริโซแดคติลา (Parissodactyla) ซึ่งมีลักษณะทั่ว  ๆ ไป ดังนี้
            ๑. มีจำนวนนิ้วของแต่ละเท้าเป็นเลขคี่ น้ำหนักตัวส่วนใหญ่จะตกลงบนนิ้วกลาง ซึ่งเป็น  นิ้วที่ยาวที่สุด และจะเดินโดยใช้กีบหรือนิ้วเท้า
เท่านั้น ส้นเท้าจะไม่แตะพื้น
            ๒. ริมฝีปากและฟันมีการพัฒนาให้มีรูป  ลักษณะที่เหมาะสมในการกิน และบดเคี้ยวพืช เป็นอาหาร
มีหลักฐานจากฟอสซิล (Fossil) พบว่า ในสมัยโบราณมีสัตว์หลายชนิดที่เจริญเติบโตและ  พัฒนาการมาจากบรรพบุรุษของม้า แต่สัตว์เหล่านั้นหลายชนิดได้สูญพันธุ์ และล้มหายตายจากไป    ตามกฎเกณฑ์การอยู่รอดของธรรมชาติ คงเหลือเฉพาะสัตว์ตระกูลม้า วิวัฒนาการของสัตว์ชนิดนี้มีต้นกำเนิดในทวีปอเมริกาเหนือในยุคอิโอซีน (Eocene) หรือประมาณ ๕๐ ล้านปีมาแล้ว บรรพบุรุษเก่าแก่ของม้าได้ถือกำเนิดขึ้นมาเป็นครั้งแรกมีขนาดตัวเท่าสุนัขจิ้งจอกหน้าตาคล้ายม้าในปัจจุบันขาหนีบมีนิ้วเท้า ๔ นิ้ว ขาหลังมี ๓ นิ้ว ลักษณะฟันบ่งชี้ว่า เป็นสัตว์ที่กินใบไม้เป็นอาหาร เรียกว่าไฮราโคเธเรียม (Hyracotherium) และมีการค้นพบซากที่มีลักษณะคล้ายกันในแถบยุโรป เรียกว่าอิโอฮิปปุส (Eohippus)
           ในยุคโอลิโกซีน (Oligocene) หรือประมาณ    ๒๘ ล้านปีที่ผ่านมา ได้มีวิวัฒนาการของม้ามาเป็นลำดับ โดยมีขนาดตัวโตขึ้น เรียกว่า เมโซฮิปปุส (Mesohippus) แต่ยังกินพืชเป็นอาหาร
            ต่อมาในยุคไมโอซีน (Miocene) มีวิวัฒนาการไปเป็นพาราฮิปปุส (Parahippus) และไฮโป  ฮิปปุส (Hypohippus) การเปลี่ยนแปลงที่สำคัญของบรรพบุรุษของม้าในยุคนี้ คือ ฟัน โดยเปลี่ยน เป็นฟันแข็งแรงเหมาะสำหรับการบดเคี้ยวหญ้ามากขึ้น และกินหญ้าเป็นอาหารแทนใบไม้ บรรพบุรุษของม้าในกลุ่มไฮโปฮิปปุส (Hypohippus) ได้ อพยพย้ายถิ่นที่สำคัญไปอยู่แถบทวีปยุโรป และเอเชียด้วย
           ต่อมาเมื่อประมาณ ๔ ล้านปีที่แล้ว ในยุคพลิโอซีน (Pliocene) บรรพบุรุษของม้าในยุคนี้มีหน้าตาคล้ายลูกม้าในปัจจุบัน ม้าในยุคนี้เรียกว่า พลิโอฮิปปุส (Pliohippus) เป็นยุคที่ม้าเปลี่ยนจากสัตว์ที่มีนิ้วเท้า ๓ นิ้ว ไปเป็นนิ้วเดียวหรือกีบเดียว เนื่องจากต้องปรับเปลี่ยนให้เหมาะสมกับสภาพพื้นที่ในการหากินจากป่าที่มีพื้นดินอ่อน มา เป็นทุ่งหญ้าที่มีพื้นแข็งและกินหญ้าเป็นอาหาร
            วิวัฒนาการขั้นต่อมา เป็นม้าในปัจจุบันซึ่งเรียกว่า อิควุส (Equus) เพิ่งปรากฏเริ่มมีมาเพียง ประมาณ ๒ ล้านปีที่แล้ว ซึ่งเข้าสู่ยุคเพลอิสโตซีน (Pleistocene) ม้าป่าในยุคนี้มีหลักฐานจากรูปวาดบนฝาผนังถ้ำ ซึ่งมีรูปลักษณะเหมือนม้าในปัจจุบัน แต่มีสีเลืองน้ำตาล หัวใหญ่ ขนที่แผงคอจะสั้น และตั้งตรง ต่างกับม้าปัจจุบันที่มีขนแผงยาวปรก ลงมา ม้าในปัจจุบันมีชื่อทางวิทยาศาสตร์ว่า อิควุสคาบอลลุส (Equus caballus)
            แนวโน้มในการพัฒนาที่แน่นอนตลอดระยะ เวลาของวิวัฒนาการของม้าที่เห็นได้ชัดคือ ขนาดตัวใหญ่ขึ้น ขายาวขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งกระดูก นิ้วเท้า ซึ่งทำให้ม้ามีความสามารถในการวิ่งได้เร็วกว่าสัตว์ชนิดอื่น ในขณะเดียวกันนิ้วกลางก็มีการเพิ่มขนาด และลดจำนวนนิ้วเท้าลง จนเหลือ เพียงนิ้วเดียว และเปลี่ยนแปลงเป็นกีบ
            ฟันม้ามีการเปลี่ยนแปลงที่น่าสนใจคือ อิโอฮิปปุส (Eohippus) บรรพบุรุษม้าในยุคอิโอซีน(Eocene) ที่มีฟันติดต่อกันตลอด ได้เปลี่ยนแปลง โดยค่อย  ๆ มีช่องว่างเกิดขึ้นระหว่างฟันหน้าและฟันด้านข้าง ซึ่งทำหน้าทีบดเคี้ยวอาหารได้ดียิ่งขึ้น

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น