วันอังคารที่ 17 กรกฎาคม พ.ศ. 2555

                                           การตรวจพิสูจน์สายเลือดม้าโดยใช้ ดี เอ็น เอ 



การตรวจสอบพันธุกรรมหรือ ดีเอ็นเอ ของม้านั้นเป็นเทคโนโลยีอันเดียวกันที่ใช้กับคน หากแต่สามารถทำได้มากกว่าการตรวจสอบหาพ่อแม่   นั่นคือสามารถตรวจสอบเรื่องของสายพันธุ์   สี โรคที่มีมากับม้าสายนั้นๆ         อีกทั้งเพื่อเป็นการยืนยันสายพันธุ์พ่อแม่ของลูกม้าก่อนการขึ้นทะเบียนอีกด้วย     และต่อไปจะเป็นการ(พยายาม...อย่างยิ่งยวด )ที่จะอธิบายให้พอเข้าใจได้อย่างง่ายๆ สำหรับการพิสูจน์ โดย เจ้า ดีเอ็นเอ ที่ว่า จะต้องประกอบด้วย 
- โครโมโซม เจ้าตัวนี้จะอยู่ในนิวเคลียส (เหมือนไข่แดง) ของเซลล์ร่างกายคน   โครโมโซมจะอยู่เป็นคู่ แต่ละคู่จะประกอบด้วยของพ่อและของแม่อย่างละอัน
ดีเอ็นเอ   (DNA,deoxyribonucleic acid) เป็นโมเลกุลของตัวประกอบ 4 ตัวหลัก คือ A (adenine), T (thymine), G (guanine) และ C (cytosine) 
- ยีนส์   เจ้าตัวนี้มาพร้อมกับตัว ยีนส์ มาร์กเกอร์ หรือที่เรียกว่าโลไซ
- ไมโครแซทเทลไลท์ หรือว่าดาวเทียมจิ๋ว เจ้าตัวนี้จะเป็นตัวกำหนด ดีเอ็นเอ หรือที่เรียกว่า ดีเอ็นเอ มาร์กเกอร์ 
- อัลลีล Allele ตัวนี้สำคัญสุด เพราะว่าเป็นตัวกำหนดยีนส์ หรือ ยีนส์มาร์กเกอร์    โดยจะมีมาสองตัว   เป็นของพ่อและของแม่อย่างละตัว
ฝรั่งเขาอ้างว่า เมื่อมีการพิสูจน์ ดีเอ็นเอ ม้านั้น แม้ว่าจะเป็นสมุดคู่มือประวัติทะเบียนม้าทองคำที่ก่อตั้งในปี 1791 โดยเวเธอร์บี้แอนด์ซัน   ก็ได้ตรวจพบว่า จากจำนวนแม่ม้าแข่งพันธุ์ดี 30 ตัว    ประมาณ ครึ่งนึงหรือ 15 ตัว พบว่ามีสายเลือดไม่ตรงกับการบันทึกในสมุดประวัติ (แต่มีคนไทยจำนวนเยอะมากที่ฝรั่งบอกบอกว่า สายเลือดต้องอย่างนั้นอย่างนี้... เราก็เชื่อเขาทันที ...นี่ตรวจแค่ 30 ตัวนะครับ ) และอันนี้ขอเฉลยเลยว่า ของฝรั่งเขาก็มั่วเหมือนกัน ครับทั่น   หากท่านมีม้ามากกว่าสามตัว และมีลูกม้าหนุ่มอยู่ในฝูง ก็จะรู้ว่าการป้องกันการผสมของม้านั้นยากกว่าที่เราคิด ปัจจัยอีกหลายประการคือ ม้าหลุดไปผสม   ม้าที่นำมาแข่งหลุดมาผสม   ลูกม้าผสมกันเอง ฯ จิปาถะ
    
ในตอนท้ายของบทความนี้เขาบอกว่า   เท่าที่ผ่านมาการจัดทำสมุดทะเบียนม้ามีจุดอ่อนมากมาย การตรวจ DNA จะช่วยท่านเจ้าของม้ากำจัดจุดอ่อนที่ว่านี้     ดังนั้น เขาจึงแนะนำว่าควรเป็นอย่างยิ่งที่เจ้าของม้าเร่งนำพ่อม้าและแม่ม้าไปบันทึกการตรวจ ดีเอ็นเอ เสียแต่เนิ่นๆ    เพื่อจะได้สร้างเป็นฐานข้อมูลเก็บไว้ก่อน เมื่อลูกม้าเกิดออกมาก็ตรวจเฉพาะของลูกอย่างเดียว เพื่อเป็นการยืนยัน ความถูกต้องอีกที เนื่องจากในแต่ละปี มีการตรวจพบว่ามีลูกม้าจำนวนเยอะมากที่ไม่สามารถขึ้นทะเบียนได้ เนื่องจากแม่ม้าตายไปก่อน 
การใช้บาร์โค้ดในม้า RFID Chips in Horses
ท่านที่ไปซื้อสินค้าตามห้างร้านต่างๆคงจะคุ้นตากับการที่พนักงานเก็บเงินนำสินค้ามารูดปรื๊ด ๆ ๆ... ที่เครื่องยิงบาร์โค้ด โดยหากเราสังเกตสักหน่อยก็จะพบว่าที่สินค้าจะมีแถบขีดสีดำเรียงเป็นเส้นเล็กๆ เพื่อใช้เป็นสัญลักษณ์ของสินค้าแต่ละชนิด ไม่ซ้ำกัน   วิธีการนี้นอกจากจะทำให้คิดราคาสินค้าได้รวดเร็วแล้ว ยังมีความแม่นยำเป็นอย่างสูงที่จะไม่ทำให้ลูกค้าได้สินค้าผิดไปจากราคาที่เลือกมา
ในวงการม้าก็เช่นกัน ปัจจุบันเริ่มมีการรณรงค์ที่จะใช้บาร์โค้ดติดเข้าไปในตัวม้า สาเหตุหลักก็เกิดจากการที่มีโรคระบาดม้าประเภท EHV-1 (Equine Herpes Virus Type 1) หรือที่บางคนเรียกว่าโรคเอดส์ม้า เชื้อโรคนี้ในยามปกติจะไม่แสดงตน แต่เมื่อม้าเริ่มมีอาการเครียดก็จะเริ่มมีอาการ และสามารถติดต่อผ่านทางอุปกรณ์เครื่องใช้ส่วนตัวหรือลมหายใจของม้าได้ เช่น ขลุม สายจูง ภาชนะใส่อาหาร เป็นต้น และเจ้าเชื้อโรคนี้ส่งผลทำให้วงการต้องได้รับความเสียหายหลายร้อยหรือหลายพันล้านบาท
เมื่อประมาณปี ค.ศ. 2007 ประเทศสหรัฐอเมริกาจึงมีการเสนอให้ใช้แถบบาร์โค้ดหรือ RFID (Radio frequencies Identification) ฝังเข้าในตัวม้า วงการอื่นเขาใช้มานานแล้ว เช่น หมู วัว หรือกระต่าย ทั้งนี้ก็เพื่อจุดประสงค์ในการควบคุมโรคม้าเสียก่อนเป็นอันดับแรก แต่ประโยชน์อื่นๆที่ตามมาก็มีอีกมากมาย เช่น การขึ้นทะเบียนม้า   การตรวจสอบสายพันธุ์   การตามหาม้าที่โดนขโมย   การป้องกันการสวมทะเบียนม้าแข่ง ฯ
วิธีการทำก็ไม่ยาก โดยการใช้ชิปที่มีขนาดประมาณเมล็ดข้าวสาร ฝังหรือฉีดที่บริเวณต้นคอม้า (ปลายผม ต้นตระโหนก) ด้านซ้าย   ก่อนการฝังนั้นก็จะต้องมีการใส่ข้อมูลเสียก่อนว่าเป็นม้าประเภทไหน ลูกใคร เคยตรวจโรครักษาที่ไหนอย่างไรมาก่อน....อื่นๆอีกจิปาถะ เหมือนข้อมูลสินค้าตามห้าง เมื่อเวลาจะใช้ก็ใช้เครื่องยิงบาร์โค้ดมายิงปี๊บเข้าไป หลังจากนั้นจึงนำมาแปลรหัส หากมีข้อมูลตรงกับที่บันทึกไว้ก็ไม่มีปัญหา 
การฝังชิปและการใช้งานไม่ยากครับ เพราะวันก่อนเห็นช่อง TPBS นำรายการของมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์มาออกอากาศการใช้งานของ RFID ในหมู และกระต่าย ก็เห็นว่าง่ายและสะดวกน่าใช้ดีมาก
ที่สำคัญคือลดข้อขัดแย้งที่ว่าม้าสายอะไร พันธุ์ไหน พ่อแม่คือตัวไหน หรือม้าแข่งสวมทะเบียน ได้อย่างหมดจดครับ
 
 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น